ปลัดขิกไม้มะยมตายพราย หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวนาราม จ.บุรีรัมย์
ปลัดขิกไม้มะยมตายพราย หลวงพ่อเมียนเสกด้วยมนต์คาถามหาเสน่ห์ตำรับเขมรโบราณพันปีชั้นสูง พุทธคุณแห่งมนต์นี้เด่นมากด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหารัญจวนใจเหนือกว่ามนต์เสน่ห์ ทั้งปวง สาวรัก สาวหลง แม้ใครโกรธเกลียดเราสักเท่าไร มีโทษภัยถึงชีวิต พบหน้าเรากลับรักเรา หายโกรธเราสิ้นแล พกพาไปค้าไปขาย ซื้อง่าย ขายคล่อง เขาเมตตา อุดหนุนมิได้ขาด ขายดี มีกำไร เขาไม่ต่อราคาเราเลย แม้เดินทางใกล้-ไกล บังเกิดลาภสักการะมิได้ขาด เป็นของวิเศษดุจแก้วสารพัดนึกเลยเชียว
พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง
ไม้มะยมตายพราย เป็นของดีอาถรรพ์แรงๆที่หาได้ยากยิ่งมีคุณในตัวทางด้านเมตตามหานิยมผู้คนชมชอบ
เด่นด้านค้าขายเรียกคนมาอุดหนุนนิยมมาไม่ขาดสายทั้งยังให้โชคลาภค้าขาย เจรจา เป็นเมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็นดีมากยิ่งนัก
.................................................................................
หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ วัดบ้านจะเนียง ต.บ้านสองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
ท่านถือกำเนิดเมือ พ.ศ.๒๔๘๒ ที่บ้านปะนึม ต.บึงขนา จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา โยมบิดาชื่ออุมขัน โยมมารดาชื่อเปร็ง บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๐ ขวบ และได้อุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี ได้ศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์ฝั่งกัมพูชาถึง ๑๒ ท่าน ท่านที่หลวงปู่ให้ความสำคัญมากคือพระอาจารย์ลุน ส่วนผู้ที่ถ่ายทอดวิชาทำหุ่นพยนต์ให้กับท่านเป็นฆราวาสคือโยมปู่ของท่านเอง ระหว่างที่บวชพระที่ประเทศกัมพูชา ท่านได้ธุดงค์ไปยังเมืองต่างๆโดยตลอด จนกระทั่งถึงพรรษาที่ ๖ ได้เกิดสงครามภายในประเทศกัมพูชา มีการเข่นฆ่าไม่เว้นแม่แต่พระเณร ท่านจึงลาสิกขาบทลี้ภัยสงครามอพยพมาอยู่ที่ อ.ตาพระยา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ หลังจากนั้นท่านเข้าอุปสมบทอีกครั้งเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๒ ณ พัทธสีมาวัดหนองติม โดยมีหลวงพ่อแพน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านก็ออกจำพรรษาไปยังวัดต่างๆหลายจังหวัด จนมาอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ อีก ๕ พรรษา ในระหว่างนั้นเองท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) ศึกษาวิชาอาคมจนแตกฉาน หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ ยังเป็นสหธรรมิกที่สนิทเป็นอย่างมากกับหลวงปู่เจียม อติสโย ด้วยเป็นคนบ้านเดียวกันและบวชเรียนมาด้วยกัน รวมทั้งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องกับหลวงปู่ธรรมรังษี เกจิอาจารย์ชื่อดัง
หลวงปู่ได้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านจะเนียง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ หลวงพ่อเมียน ท่านเป็นที่มีเมตตาสูงจึงมีลูกศิษย์แวะเวียนไปขอพรจากท่านเสมอ ยามว่างท่านก็ปฏิบัติกิจของสงฆ์ไม่ได้ขาด
พระเกจิสายเขมรอีกท่านหนึ่ง เพราะท่านยังอยู่ให้เราสามารถไปกราบไหว้ท่านได้ แม้ว่าท่านจะเข้ามาอยู่ในเมืองไทยไม่นาน ท่านก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้เราได้ยินกันไม่น้อย ทั้งน้ำมันพรายเทียน อันน่าประหลาดใจ ทั้งผงพรายกุมาร ตำรับเฉพาะของท่าน ยังสีผึ้งแมลงทับ และหุ่นพยนต์อันมีประสบการณ์มากมาย
และเมื่อผ่านมาไม่นานนี้ ท่านถูกนำประวัติ ประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆ ไปลงตีพิมพ์ในหนังสือพระเครื่องหลายฉบับอยู่มิได้ขาด ชื่อเสียงของท่านจึงขจรขจายยิ่งๆขึ้นทุกวัน จึงเป็นโอกาสดีที่เพื่อนๆ จะได้เร่งศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับท่าน และพระเครื่องของท่าน ท่านจะได้บูชาพระเครื่องแท้ๆ ถูกๆ ทันยุคที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
พระอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใย ลูกศิษย์ของ ลพ.กวย และ ลป.หมุน ยังไปฝากตัวเป็นศิษย์