“กุมารทอง 8 มงคลล้านนา”
สุดยอดตำนานกุมารทองแห่งยุค
กุมารทอง 8 มลงคลนี้ได้จัดสร้างขึ้นตามตำราโบราณทุกอย่าง ทั้งยังมีมวรสารหลักๆมากมาย อาทิเช่น ดินอาถรรพ์ต่างๆ ปั้นเหน่งโบราณ ผงว่านยาสักราณ ไม่กาฝาก ไม้รัก ไม้มะรุม ไม้มะยม ไม้ฝาโลงศพ และยังมี ตะปูตอกโรงศพ ที่ได้ฝังไว้ในกุมาร 8 มลงคลรุ่นนี้ทุกชิ้น
วิธีการปั้นกุมารทองต้องปั้นจากดินอาถรรพ์ต่างๆมาปั้น เพราะดินอาถรรพ์ต่างๆนั้นมีพลังงานมากมายไม่เป็นอันตรายต่อผู้บูชาเนื่องจากดินนั้นจะมีเทวดา หรือดวงวิญญาณซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษาอยู่ด้วย อาทิเช่น
ดินเจ็ดป่าช้า เป็นดินที่มีพลังงานมากที่สุด เพราะเป็นดินของฝ่ายวิญญาณต่างๆมากมายที่ผ่าน หรือเดินทางอยู่บริเวณนั้น เช่นสุสาน,ป่าช้า
ดินเจ็ดโป่ง,ดินขุยปู เป็นดินที่ได้จากขุยดินจากรูปู และจอมปลวก ถือว่าเป็นมวลสารที่วิเศษยิ่ง เพราะจะมีเทวดาอารักษ์อยู่ตามตำรับใบลานโบราณ
ดินเจ็ดท่า เป็นดินที่ได้จากท่าน้ำต่างๆ 7 แห่ง เพราะท่าน้ำนั้นมักมีคนสัญจรไปมาค้าขาย หรือเดินทาง จะมีพลังงานต่างๆหลายที่มาอยู่รวมกัน
ดินเจ็ดสวน,เจ็ดไร่,เจ็ดนา ถือว่าเป็นดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก สวนไหน ไร่ไหน ผลิดอกออกผลมากก็จะนำดินของสวนนั้นๆมาเป็นมวลสาร
ดินเจ็ดวัด,เจ็ดไคล ถือว่าเป็นดินที่มีเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ หรือดินหน้าโบสถ์ จะมีพลังงาน และความศักดิ์สิทธิ์มาก
ดินเจ็ดถ้ำ เป็นดินที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะถือว่าเป็นที่สถิตย์ของเหล่าฤาษีเทวดา เจ้าป่า เจ้าเขา ถือว่าเป็นดินพิเศษอย่างยิ่ง
เถ้ากระดูก อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นมวลสารที่เหมือนร่างกายของมนุษย์ ต้องมีกระดูกบรรจุอยู่เป็นธาตุที่ขาดไม่ได้ จึงต้องนำเป็นมวลสารผสมเข้าไป โดยใช้ขี้เถ้ากระดูกเด็ก หรือเถ้ากระดูกจากเมรุต่างๆมาผสม เพื่อให้ได้กุมารทองที่มีฤทธิ์เดชมากขึ้น และใช้คาถากับธาตุต่างๆ ได้โดยพระเกจิเท่านั้น
กุมารทอง 8 มงคลรุ่นนี้จะเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูงมากอย่างแน่นอน ด้วยทั้งมวรสารที่เข้มขลังต่างๆ และทั้งยังมีสุดยอดพระเกจิที่โด่งดังถึง 8 ท่าน ได้ปลุกเสกอธิฐานจิตได้อย่างเข้มขลัง พิถีพิถันในทุกๆขั้นตอนในการจัดสร้าง และยังมีสุดยอดพระเกจิแห่งยุคชื่อดังหลายท่านที่ได้ร่วมปลุกเสกกุมารทอง 8 มลงคล มีรายชื่อดังนี้ครับ
1. หลวงพ่อเสนห์ วัดเชียงขาง
2. ครูบาเต่า วัดบ้านเหล่า
3.พระอาจารย์เสถียร วัดบ่าก๊าง
4.อาจารย์พรสิทธิ์ วัดสว่างอารมณ์
5.ครูบาวิมาละ
6.ครูบาเลิศ วัดป่าสัก
7.พระอาจารย์กฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
8.เจ้าสล่าวิ
กุมารทอง เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ที่มาของกุมารทองมาจากการเลี้ยงภูตผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย หากเป็นวิญญาณผู้หญิงที่คนเลี้ยงไว้จะเรียกว่า "โหงพราย"
กุมารทองนั้นแรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่เรียกว่าตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมจะไปนำพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก จากหลักฐานที่พบในเอกสารโบราณระบุถึงการทำกุมารทองสรุปว่า ต้องหาศพที่ตายทั้งกลม แล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอาศพทารกในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่ว ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่ากุมารทอง ต่อมาสภาพสังคมและวัฒนธรรมพัฒนาไปมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพทารกจริง ๆ ได้ จึงได้มีการดัดแปลงกรรมวิธีการสร้างกุมารทองขึ้น โดยใช้ดินเจ็ดป่าช้าบ้าง ไม้รักซ้อนหรือไม้มะยมบ้าง ไปจนถึงโลหะ มาสร้างเป็นรูปกุมา แล้วปลุกเสกตั้งจิต ตั้งธาตุทั้ง 4 และเรียกอาการสามสิบสองให้บังเกิดเป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา
กุมารทองปัจจุบันนิยมสร้างเป็นรูปเด็ก ลักษณะเป็นเด็กไว้จุก นุ่งโจงกระเบนอย่างโบราณกลายเป็นเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าเสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารนั้น ผู้บูชาต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตน ต้องให้ข้าวน้ำเซ่นสรวงและต้องเรียกให้กินข้าวด้วย กล่าวกันว่าหากปฏิบัติดูแลดีกุมารทองก็จะช่วยค้ำคูณ อาทิ ช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของและครอบครัวจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ไปจนถึงเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย และจะคอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มากล้ำกราย