วิธีปลุกอิ่น
วิลักษณ์ ศรีป่าซาง / เรื่อง
ภาพงาม โดย นันทพัฒน์ สุรสิงห์โตทอง / ภาพธรรมดา ผีมือผู้เขียนเอง
เดือน 10 จะดับแล้ว ฝนมาฟ้าหมองทุกวัน คนเคิ้นคนอกหักคงอยากเอาหัวชนฝา คนมีเมียมีผัว คงนั่งเขียนธรรมกับเล่นเฟส บรรยากาศมันหื้อเนาะ (จุ๊กกรู๊วี้ดบู้ม)
ค้างไว้หลายวัน เรื่องปลุกอิ่น ความจริงเรื่องเหล่านี้ ข้าข้อยเขียนเล่าไว้ในหนังสือเล่มอ้วนหมดแล้ว แต่รู้ว่าหลายท่านไม่ได้ซื้อ หรือดูแต่รูป บ่ได้อ่านเป็นแท้เป็นว่า เข้าเรื่องเลยดีกว่า
เชื่อกันว่า คนที่มีเลข 2 ในตัว ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป สามารถสื่อกับเครื่องรางสายปิยะได้โดยไม่ต้องทำอะไร
อิ่นก็เช่นเดียวกัน ปู่ครูเล่าว่า เสน่ห์ในตัวคน จะจูนเข้ากับอิ่น หรือเครื่องรางสายปิยะอย่างอื่น เช่น แมลงภู่ เทพอูติ่ง เป็นต้น
คิดๆ ก็คงเหมือนดูโหงวเฮ้ง อิ่นถูกชาตากับคน คนถูกชาตากับอิ่น รู้จักปุ๊บ ก็ถูกชาตาปั๊บ บางคนหน้าตาอาจไม่น่าคบหา ครั้นพอได้คุยกันกลับมีน้ำมิตรสนิทใจ นี่หมายถึงคนไม่มีเลข 2 ในตัว ก็ต้องทำความรู้จักกันก่อน หมายถึงการปลุกอิ่นนั่นเอง “เข้าถูก ก็ผูกใจ” อิ่นก็คงเช่นเดียวกัน
เชื่อกันอีกว่า อิ่นทิ้งค้างร้างแรมไว้เมินนาน ก็หลับใหล พอปลุกตื่น ด้วยวิธีการตามแบบฉบับ อิ่นจะสานพลังรับรู้ ปู่ครูเล่าว่า อิ่นเหมือนไก่น้อยออกจากไข่ พบสิ่งใดก่อน ก็ถือ เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นนาย ไหว้วานได้ดังใจนึก
ตำราว่า ให้หาวันและยามปลุกอิ่น เป็นวันที่สมพงษ์กับวันเกิดเรา เช่น วัน 1 (อาทิตย์) สมพงษ์กับวัน 5 พฤหัสฯ เป็นต้น
ยามดี อันนี้ต้องอธิบายยาวมาก ตัวอย่างนะ ถ้าปลุกวันจันทร์ ยามดีคือ 10.00 น. ถึง 13.30 น. แทรกนิดหนึ่ง ฤกษ์งามยามดี จะมีช่วงเวลา 3 ชั่วโมง วันอื่นก็แตกต่างกันไป
สถานที่ประกอบพิธีควรสงบสะอาด เจ้าของอิ่นก็อาบน้ำชำระกายสักหน่อย ไม่ใช่สาบขี้ห่าเหล้า อิ่นไม่อ้าวไม่เอา ไม่ชอบ
ของประกอบพิธี ให้ใช้ดอกไม้ขาวหอม เทียนคู่ ธูปคู่ หญิงจุดเทียนเล่มซ้าย ถ้าเป็นชายให้จุดเทียนเล่มขวาก่อน ปูผ้าขาวแล้ววางอิ่นบนแผ่นยันต์
แผ่นยันต์นี้สร้างใหม่โดยปู่ครู คล้ายยันต์หนีบ ด้านหนึ่งลงนามแห่งเรา อีกด้านหนึ่งคือความปรารถนา แล้วพับประกบกัน ทาด้วยน้ำมันจันทน์ แนบกับสีผึ้งวิเศษ
สีผึ้งนั้น ต้องทำจากชันโรงรังผู้ (ทางเข้ารังยื่นออกมาคล้ายอันนั้นของบุรุษ) ผสมกับชันโรงเมีย (มักสร้างรังตามง่ามไม้คล้ายๆ นะ แฉะๆ หน่อย) เรื่องนี้ลึกลับซับซ้อนมากกกก คือวิธีทำสีผึ้งเสน่ห์
เสร็จแล้ววางอิ่นอยู่เหนือแผ่นยันต์หนีบ จากนั้นถึงท่องคาถาบทใดบทหนึ่งที่เขียนไว้ในตอนก่อน (คาถาอิ่นแก้ว ช้างโขลง) พอเทียนดับ ธูปหมดดอก ก็ออกปากขอ
นี่ท่านเหย ที่เล่ามาก็ว่าตามตำรานะ เราไม่เคยทำ บางเรื่องปู่ครูอาจจะแหม่ออก (เพิ่มเติมด้วยกลวิธี) ไม่มีมอกมาตรฐาน เชื่อใครเชื่อมัน เราชอบอิ่นและมีเลข 2 อยู่ในตัวแล้วจึงโชคดีไม่ต้องปลุก
อิ่นคือสิ่งจำหมายให้เกิดความงดงาม เป็นงานศิลปะแห่งรัก เป็นงานสะสมบวกศรัทธา ใครชอบแบรนด์เนม ชอบชนไก่ ชอบกินเหล้า ชอบสาวๆ คงเช่นเดียวกัน
เราชอบงานศิลปะ นานวันคุณค่าองค์ความรู้ก็ก่อเกิด เก็บไว้หลายชิ้น ไว้ถ่ายภาพประกอบข้อเขียน เป็นตัวอย่างการสอนล้านนาคดี อีกอย่าง ถ้า "เขียน" โดยไม่มี "ของ" เกรงจะมีคนด่าว่าเราเขียนมั่ว ลางคนกระแนะกระแหนว่า เอามาอวดมากมายเพราะอยากขายล่ะสิ หะฮ้า นี่คือคำคนที่ใจไม่มีอิ่น
ความจริงแล้ว อิ่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เป็นงานโบราณ เป็นประวัติศาสตร์ล้านนาส่วนหนึ่ง เป็นของสะสม เป็นตัวกลางสร้างความมั่นใจ ให้เรามีพลังเชื่อมั่นในตัวเอง ใจแกร่งใจกล้า ใจหาญ มีความงดงามด้วยความรัก และที่สำคัญ "ตัวเรานั่นแหละคืออิ่นวิเศษ"
บางคนใจร้าย เช้ามาเปิดเฟสมีแต่คำแช่งคำด่า ห่าเหว คอวอยอ เต็มจอ ต่อให้มีอิ่นกองพะเนินอยู่ส่องหน้า คนใกล้คนไกล คงไม่จงรักเป็นแน่แท้ เอวัง.
(ขอบคุณสล่าดนัย ศิริกาญจนากุล ครับ ที่ช่วยพิสูจน์อักษร)